จบลงไปแล้วครับกับคู่มวยไฟต์หยุดโลกระหว่าง Floyd Mayweather Jr. กับ Manny Pacquiao ซึ่งชัยชนะตกเป็นของนักชกเจ้าของฉายา "THE MONEY" Floyd Mayweather Jr. ยอดกำปั้นผู้ไม่เคยแพ้ใคร ด้วยคะแนน 118-110, 116-112, 116-112
ตลอดการชกทั้ง 12 ยก ทั้งคู่ชกได้ตามแผนที่วางไว้ ปาเกียวในวัย 36 ปี ยังคงหนักแน่นและแข็งแกร่ง ขณะที่ฟรอยด์ในวัย 38 ปี ยังคงรวดเร็ว (และยังคงเป็นจอมลีลาเหมือนเดิม)
สถิติก่อนขึ้นชก
ฟรอยด์ ชก 47 ไฟต์ ชนะ 47 ครั้ง (น็อคเอาต์ 26 ครั้ง)
ปาเกียว ชก 64 ไฟต์ ชนะ 57 ครั้ง (น็อคเอาต์ 38 ครั้ง) แพ้ 5 ครั้ง เสมอ 2 ครั้ง
และนอกจากสถิติการชกของทั้ง 2 คนจะสุดยอดแล้ว ทั้งคู่ยังบลัฟกันแหลกก่อนขึ้นชก และมีการคุยข่มกันของเหล่าแฟนมวยของทั้งสองฝ่ายอย่างสนุกปาก ฝ่ายหนึ่งได้ใจชาวอเมริกัน อีกฝ่ายหนึ่งได้ใจคนทั้งเอเชีย และยังพ่วงมาด้วยสถิติการขายบัตรที่เร็วที่สุดในโลก (ขายหมดภายใน 1 นาที) และอีกสิ่งหนึ่งที่ลืมไม่ได้เลยคือ เงินค่าตัวในการชกไฟต์นี้ ซึ่งคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 250 ล้านดอลลาร์ ซึ่งฟรอยด์ได้ส่วนแบ่ง 60% (150 ล้านดอลลาร์) ส่วนปาเกียวได้ 40% (100 ล้านดอลลาร์)
ผลการชกบนเวทีเพิ่มสถิติให้ฟรอยด์เป็น ชนะ 48 ครั้ง ซึ่งอาจจะขัดใจแฟน ๆ ปาเกียวอยู่บ้าง (ก็บนเวทีมันสูสีสุด ๆ) แต่เมื่อการชกเสร็จสิ้น ทั้งฟรอยด์และปาเกียวต่างโผเข้ากอดกันด้วยน้ำใจนักกีฬา (เป็นภาพที่น่าดูที่สุดบนเวที) และไม่ว่าผลแพ้ชนะจะออกมาเป็นอย่างไร ทั้งคู่จะได้ขึ้นชื่อว่าเป็น 2 นักกีฬาที่มีรายได้ต่อปีมากที่สุดในโลกทันที (แม้จะชกแค่ปีละครั้งก็ตาม)
ถ้าหลับตานึกถึงนักกีฬาที่มีรายได้ต่อปีมากที่สุดในโลก คุณนึกถึงใครกันบ้างครับ
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ? หรือ ลีโอเนล เมสซี่? แห่งวงการฟุตบอล
เลบรอน เจมส์? หรือ โคบี้ ไบรอัน? แห่งวงการบาสเก็ตบอล
โนวัค ยอโควิช? แห่งวงการเทนนิส
รายได้ของนักกีฬาที่กล่าวมานั้นเทียบไม่ได้เลยกับรายได้ของนักมวยคู่นี้ครับ
ทั้ง ๆ ที่นักกีฬาอย่างโรนัลโด้, เมสซี่, เลบรอน เจมส์, โคบี้ ไบรอัน และโนวัค ยอโควิช มีรายได้เป็นค่าเหนื่อยจากสโมสรและรายได้จากการคว้าแชมป์ต่าง ๆ แถมยังมีสปอนเซอร์รายใหญ่อย่าง อาดิดาส, ไนกี้, อาร์มานี่, คาสตรอล, เป็บซี่ ฯลฯ คอยจ่ายเงินค่าเป็นพรีเซนเตอร์ให้อีก
ต่างจากวงการมวยมาก ซึ่งได้แค่ส่วนแบ่งค่าตัวอย่างเดียว
โดยเฉพาะในรายของฟรอยด์ ที่ลุคอาจจะดูเป็นแบดบอย จึงไม่มีสปอนเซอร์รายไหนสนใจจะเข้าไปจ้างให้เป็นพรีเซนเตอร์ ฟรอยด์จึงมีรายได้จากส่วนแบ่งค่าตัวเพียงอย่างเดียวจริง ๆ
แต่ก็อย่างที่บอกแหละครับว่า แค่รายได้จากส่วนแบ่งค่าตัวเพียงอย่างเดียวก็มากกว่า รายได้จากทุก ๆ ทางของนักกีฬาประเภทอื่น ๆ แล้ว
คนธรรมดาอย่างเรา ๆ เองก็เหมือนกันครับ
"หากไม่ได้มีรายได้จากหลาย ๆ ทาง ก็จงมุ่งมั่นทำหนึ่งทางที่เราถนัดให้ดีที่สุด แล้วเรื่องเงินมันจะดีเอง"
"MONEY IS THE CHAMP" วันนี้ฟรอยด์ชนะทั้งเรื่องมวย และเรื่องเงินครับ
แต่หลังการชกจบลง ผมแอบได้ยินฟรอยด์เอ่ยปากขอบคุณสปอนเซอร์รายหนึ่งครับ
หรือในทางตรงกันข้าม
ฟรอยด์เองก็เริ่มเรียนรู้ที่จะหารายได้จากหลาย ๆ ทางแล้วเหมือนกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น